Standard Deviation Colour Matching
Standard Deviation Colour Matching
การจับคู่สีตามค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน : SDCM
ในปัจจุบันลูกค้าจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ มีความต้องการโคมไฟ LED ที่มีคุณภาพสูง โดยเฉพาะค่า SDCM ในด้านโคมไฟ LED จะแบ่งออกเป็นสองส่วนที่แตกต่างกัน คือ SDCM ของชิป LED และ SDCM ของโคมไฟทั้งหมด
ค่า SDCM อธิบายถึงความสม่ำเสมอของสีของแหล่งกำเนิดแสง โดยใช้วงรี MacAdam กำหนดไว้
สินค้าราคาถูกมักจะใช้ชิป LED ที่มีช่วงของ MacAdam Ellipse มากกว่า 6 SDCM โดยบางชิปมีมากถึง 8 SDCM โคมไฟที่ใช้ชิป LED ดังกล่าวต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง อาจมีพื้นที่สำนักงานหรืออุตสาหกรรมทั่วไปที่ใช้ชิปดังกล่าวสามารถใช้ได้ แต่ข้อกำหนดเรื่องความไวต่อสีอาจตัดออกไปไม่ได้
ความสม่ำเสมอของสี ของแหล่งกำเนิดแสงมีความสำคัญมาก เนื่องจากหากคุณมีโคมไฟมากกว่าหนึ่งดวงในบริเวณใกล้เคียง ความแตกต่างของสีจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนและสะท้อนไปยังสภาพแวดล้อม ไม่มีความสม่ำเสมอของสี ซึ่งอาจทำให้เกิดโซลูชันแสงสว่างที่ไม่พึงประสงค์ได้ ผู้ผลิตโคมไฟคุณภาพสูงจึงมั่นใจว่าการเลือกใช้ชิป LED เป็นไปตามค่า SDCM ให้น้อยที่สุด
ตำแหน่งสี (SDCM = 1) หมายถึงไม่มีความแตกต่างของสีระหว่างชิป LED
ตำแหน่งสี (SDCM = 2-3) หมายถึงแทบไม่มีความแตกต่างของสีที่มองเห็นได้
ตำแหน่งสี (SDCM = >4) หมายถึงจะเห็นความแตกต่างได้ชัดเจน
ข้อกำหนดสำหรับสภาพแวดล้อมภายในอาคารส่วนใหญ่มักจะอยู่ที่ประมาณ MacAdam, SDCM 2-3 สำหรับการใช้งานภายนอกอาคารส่วนใหญ่ ค่า MacAdam, SDCM 5 ถือว่ายอมรับได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สินค้าราคาถูกมักจะใช้ชิป LED ที่มีช่วงของ MacAdam Ellipse มากกว่า 6 SDCM โดยบางชิปมีมากถึง 8 SDCM โคมไฟที่ใช้ชิป LED ดังกล่าวต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง อาจมีพื้นที่สำนักงานหรืออุตสาหกรรมทั่วไปที่ใช้ชิปดังกล่าวสามารถใช้ได้ แต่ข้อกำหนดเรื่องความไวต่อสีอาจตัดออกไปไม่ได้
ความสม่ำเสมอของสี ของแหล่งกำเนิดแสงมีความสำคัญมาก เนื่องจากหากคุณมีโคมไฟมากกว่าหนึ่งดวงในบริเวณใกล้เคียง ความแตกต่างของสีจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนและสะท้อนไปยังสภาพแวดล้อม ไม่มีความสม่ำเสมอของสี ซึ่งอาจทำให้เกิดโซลูชันแสงสว่างที่ไม่พึงประสงค์ได้ ผู้ผลิตโคมไฟคุณภาพสูงจึงมั่นใจว่าการเลือกใช้ชิป LED เป็นไปตามค่า SDCM ให้น้อยที่สุด